Wednesday, February 26, 2020

คัมภีร์ริดสีดวง 18 จำพวก และมีตำรับยาแก้





 

คัมภีร์ริดสีดวง 18 จำพวก และมีตำรับยาแก้

จัดทำโดย อ. สุชาติ ภูวรัตน์
นธ.เอกบาลีประโยค 1-2
(อดีตพระธรรมทูตต่างประเทศ)
B.S. Engineering Design Tech.
 B.A. ศาสนศาสตร์บัณฑิต
B.S. Computer Information Systems
B.TM.  พทย์แผนไทยบัณฑิต
สาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ
บ.ภ.พท.ว.พท.ผ.พท.น.
ครูแพทย์แผนไทย 4 ด้าน
ศูนย์การแพทย์แผนไทยภูเก็ต
ทำเพื่อการศึกษาและประโยชน์แก่ผู้ชม


คัมภีร์ริดสีดวง
โรคริดสีดวง 18 จำพวก มีตำรับยารักษา
คัมภีร์ริดสีดวง กล่าวกันว่าได้สูญหายไปนานแล้ว และได้ปรากฏอีกครั้งหนึ่ง อาจารย์สมัยโบราณกล่าวถึงโรคริดสีดวงที่เกิดแก่บุคคลทั่วไปมี 18 จำพวก (ส่วนมากเป็นโรคระบบทางเดินอาหาร ระบบหายใจ และระบบขับถ่าย อุจจาระ ปัสสาวะ) มีชื่อเรียกเป็นภาษาไทยสันสกฤต มีดังนี้
1. ษาบะติญานะโรค (โรคริดสีดวงที่เกิดในสมอง ให้ปวดศีรษะ)
2. วิตานะโรค          (โรคริดสีดวงที่เกิดในนัยน์ตา ให้น้ำตาไหล)
3. ฆาณะโรค           (โรคริดสีดวงที่เกิดในจมูก ให้หายใจขัด)
4. โรหินีโรค            (โรคริดสีดวงที่เกิดในลำคอ ให้เหม็นคาวคอมาก)
5. อะภิระนะโรค      (โรคริดสีดวงที่เกิดในปากในลิ้น ให้ลิ้นเปื่อยเป็นขุม น้ำลายไหลไม่หยุด)
6. วิชิกามะโรค        (โรคริดสีดวงที่เกิดในดวงจิต ให้แสบทรวงในอกและยอกในอกอยู่เป็นนิจ) 
7. อุระปัศโรค         (โรคริดสีดวงที่เกิดในทรวงอกและสีข้างทั้ง 2 )
8. อันตะวิศะโรค     (โรคริดสีดวงที่เกิดในลำไส้ใหญ่ ให้ผอมเหลือง เหนื่อยหอบ)
9. อันตะคุณะโรค    (โรคริดสีดวงที่เกิดในลำไส้น้อย ให้ท้องร่วง)
10. ตาระสะกะโรค   (โรคริดสีดวงที่เกิดในหัวเหน่าและท้องน้อย ให้ปวดท้องน้อยมาก)
11. อัคคะนิโชตโรค  (โรคริดสีดวงที่เกิดในช่องทางเดินปัสสาวะ ให้ปัสสาวะเป็นเลือด)
12. วาตะสูตะโรค    (โรคริดสีดวงที่เกิดในสันหลัง ให้เจ็บเอวและสันหลัง)
13. อุระวัณณะโรค   (โรคริดสีดวงที่เกิดในในทรวงอก ให้เจ็บ ให้ยอกในอกมาก)
14. ศักการะโรค      (โรคริดสีดวงที่เกิดในทวารหนัก ให้แสบร้อนในทวารหนัก)
15. สุวิชิกาโรค        (โรคริดสีดวงที่เกิดตามขอบทวารหนัก มีสัณฐานดังเมล็ดข้าวโพด) 
16. สกาถานะโรค    (โรคริดสีดวงเกิดที่ริมทวารหนักข้างใน มีสัณฐานดังเดือยไก่)
17. บานทะโรค       (โรคริดสีดวงที่เกิดตามขอบทวารหนัก ให้เป็นหนองมีเลือดไหลเหม็นเน่ามาก)
18. กาละศุกระโรค  (โรคริดสีดวงที่เกิดในลำส้วงอุจจาระ มีเลือดไหลออกมา)

1. โรคริดสีดวงสมอง ชื่อ ษาบะติญานะโรค คือโรคริดสีดวงที่เกิดในสมอง มีอาการปวดศีรษะมาก บางทีให้คันในสมอง บางทีให้หนักศีรษะจนเซไป บางทีให้เชื่อมมัวมาก (มีกิมิชาติหรือพยาธิตัวจี๊ดไชขึ้นกินในสมอง)
มีตำรับยาใช้รักษา 3 ขนาน ดังนี้
ขนานที่ 1. เอาสมอไทย ขิงแห้ง กระเทียม ยอดการะเกด ยอดลำเจียก น้ำมูตรโคดำ เอาน้ำสิ่งละถ้วย น้ำมันงา 1 ถ้วย หุงเข้าด้วยกัน ให้เหลือแต่น้ำมัน แล้วเอาพิมเสน การบูร เทียนดำ เทียนขาว สิ่งละ 1 สลึง (3.75 กรัม) บดเป็นผงใส่ลงในน้ำมันนั้น ใช้ทาศีรษะ
ขนานที่ 2. เอาขิงสด กระเทียม กานพลู ดองดึง กระดาดแดง เจตมูลเพลิง เสมอภาค บดแล้วตากน้ำค้างไว้คืนหนึ่ง จึงเอามาสุมศีรษะ
ขนานที่ 3. เอายอดหวายดง ยอดเตย ยอดอ้อ กระเทียม สมอพิเภก เอาน้ำสิ่งละถ้วย น้ำมันงา 1 ถ้วย
น้ำมันกระดังงา 2 ถ้วย หุงเข้าด้วยกันให้เหลือแต่น้ำมัน แล้วเอาพิมเสน 1 สลึง (3.75 กรัม) บดเป็นผงใส่ลงในน้ำมัน ใช้ทาศีรษะ
 2. โรคริดสีดวงตา ชื่อวิตานะโรค คือ โรคริดสีดวงที่เกิดในนัยน์ตา มีอาการ ให้น้ำตาไหลอยู่เรื่อยๆ บางทีให้มีขี้ตาออกมาจนต้องเช็ดอยู่เรื่อยๆ บางทีให้คันตามาก บางทีให้แสบร้อนในดวงตา บางทีให้เปื่อยตามขอบตา (มีกิมิชาติหรือพยาธิตัวจี๊ดอาศัยกินอยู่ในกระบอกตา ถ้าปล่อยให้พยาธิตัวจี๊ดไชเข้าลูกตา จะทำให้ตาอักเสบและบอดได้)   
มีตำรับยาใช้รักษา 6 ขนาน ดังนี้
ขนานที่ 1. เอายอดผักเป็ดแดง สารส้ม ขมิ้นอ้อย เสมอภาค บดคลุกกันเข้า แล้วห่อผ้าขาวบางเช็ดตา
ขนานที่ 2. เอาลูกมะกรูด 1 ลูก เกลือตัวผู้ 7 เม็ด ใส่ในลูกมะกรูด แล้วเอาสุมไฟแกลบให้สุก คั้นเอาน้ำ
แล้วจึงเอาสารส้มเท่าเมล็ดถั่วเขียวใส่ เอาสำลีชุบหยอดตาบ่อยๆ
ขนานที่ 3. เอาเมล็ดมะกล่ำตาหนู ขมิ้นอ้อย สารส้ม เสมอภาค บดเป็นผง ทำแท่งไว้
ละลายน้ำเถาตำลึงหยอดตา
ขนานที่ 4. เอาเมล็ดมะกล่ำเครือ ยอดผักเค็ด ยอดเถาคัน ยอดกะเม็ง เสมอภาค บดเป็นผงละเอียด ไว้สำหรับนัตถุ์
ขนานที่ 5. เอาหน่อไม้ไผ่รวก ข้าวสุก เสมอภาค ดองไว้ 3 วัน จึงเอาสำลีชุบหยอดตา
ขนานที่ 6. เอาบอระเพ็ด ขิงแห้ง ใบมะตูม ผักแพวแดง กรุงเขมา ลูกพิลังกาสา เปลือกโมกมัน เสมอภาค บดเป็นผง ละลายน้ำผึ้งรวง รับประทาน

3. โรคริดสีดวงจมูก ชื่อ ฆาณะโรค คือ โรคริดสีดวงที่เกิดในจมูก มีอาการให้หายใจขัด บางทีเป็นเม็ดยอดขึ้นในจมูก แล้วแตกลำลาบออก ให้เหม็นคาวคอยิ่งนัก ทำพิษให้ปวดแสบปวดร้อนมาก บางทีให้น้ำมูกไหลอยู่เป็นนิจ  (มีกิมิชาติ หรือพยาธิตัวจี๊ดกินอยู่ในจมูก)
มีตำรับยาใช้รักษา 3 ขนาน ดังนี้
ขนานที่ 1. เอาขิงแห้ง ดองดึง อุตพิด กระดาดแดง กระดาดขาว บุกรอ กลอย กระวาน 
สิ่งละ 1 ส่วน พริกไทย 8 ส่วน บดเป็นผงละลายน้ำร้อนรับประทาน
ขนานที่ 2. เอาดองดึง อุตพิด เสมอภาค บดเป็นผงละเอียดไว้นัตถุ์
ขนานที่ 3. เอาเจตมูลเพลิง รากสลิด ขิงแห้ง ดองดึง ดีปลี สิ่งละ 1 ส่วน พริกไทย 3 ส่วน 
บดเป็นผง ละลายน้ำร้อน รับประทาน

4. โรคริดสีดวงลำคอ ชื่อ โรหินีโรค คือ โรคริดสีดวงที่เกิดในลำคอ มีอาการให้ลำคอชุ่มไปด้วยเสมหะ ให้เหม็นคาวคอมาก  บางทีให้เน่าเหม็น ในลำคอเป็นเลือด จะบริโภคอาหารไม่ได้ ไม่มีรส
มีตำรับยาใช้รักษา 6 ขนาน ดังนี้
ขนานที่ 1. เอาเจตมูลเพลิง พริกไทย ดีปลี กระเทียม ดองดึง เสมอภาค บดเป็นผง ตากให้แห้ง
เอาใบลานมวนสูบ
ขนานที่ 2. เอาใบสมี ใบคราม ดีปลี พริกไทย เกลือกะตังมูตร เสมอภาค บดเป็นผงละเอียดไว้นัตถุ์
ขนานที่ 3. เอาแก่นสน 1 ส่วน ขิงแห้ง 2 ส่วน บดเป็นผง ใช้น้ำมะนาวเป็นกระสาย ทำแท่งไว้
ละลายน้ำมะงั่ว 1 ส่วน น้ำร้อน 2 ส่วน รับประทาน
ขนานที่ 4. เอาเปลือกมะรุม แก่นคนทา แก่นมะหวด แก่นประดู่ แก่นแสมสาร สิ่งละ 1 ส่วน 
ต้มน้ำดื่ม
ขนานที่ 5. เอาใบมะนาว ใบกระวาน รากมะเขือขื่น ขมิ้นชัน สมอไทย ผักแพวแดง เสมอภาค
บดเป็นผง ทำแท่งไว้ ละลายน้ำร้อน รับประทาน
ขนานที่ 6. เอารากช้าพลู สะค้าน เจตมูลเพลิง ขิงแห้ง ดีปลี รากโยทะกา รากสลิด รากซ้องแมว รากมะเกลือ รากสะแก รากกล้วยป่า รากเล็บมือนาง รากตานหม่อน เปลือกไข่เน่า เปลือกราชพฤกษ์ เปลือกมะฝ่อ สิ่งละ 1 ส่วน เปลือกยาง 2 ส่วน ต้มน้ำดื่ม

5. โรคริดสีดวงปากและลิ้น ชื่อ อะภิระนะโรค  คือ โรคริดสีดวงที่เกิดในปากในลิ้น มีอาการให้ลิ้นเปื่อยเป็นขุม ให้น้ำลายไหลตลอดเวลา
จะบริโภคอาหารรสเผ็ดร้อนหรือเปรี้ยวหรือเค็มไม่ได้ ให้แสบร้อนเหลือทน
มีตำรับยาใช้รักษา 2 ขนาน ดังนี้
ขนานที่ 1. เอาใบตานหม่อน ใบกระเพรา ใบกระวาน ใบมะกล่ำเครือ ใบมะกรูด เสมอภาค บดเป็นผง ทำแท่งไว้ ละลายน้ำหมากดิบแทรกฝิ่น ทาก็ได้ รับประทานก็ได้
ขนานที่ 2. เอาเปลือกราชพฤกษ์ เปลือกสะเดา ขมิ้นอ้อย ฝักส้มป่อย ลูกกระดอม บอระเพ็ด เสมอภาค ต้มน้ำตามวิธีให้ดื่ม

6. โรคริดสีดวงอก ชื่อ วิชิกามะโรค คือ โรคริดสีดวงที่เกิดในอก มีอาการให้แสบในทรวงอกและยอกในอกอยู่เป็นนิจจะไหวตัวไปมาก็ไม่ได้ บางทีให้ร้อน บางทีให้หนาว จะบริโภคอาหารก็ไม่ได้ ให้หิวมาก และให้เหงื่อตกมาก
มีตำรับยาใช้รักษา 4 ขนาน ดังนี้
     ขนานที่ 1. เอาเปลือกโมกมัน บอระเพ็ด ขิงแห้ง ลูกพิลังกาสา ใบมะตูม ผักแพวแดง กรุงเขมา 
     เสมอภาค บดเป็นผง ละลายน้ำผึ้งรับประทานหนักครั้งละ 1 สลึง ( 3.75 กรัม)
    ขนานที่ 2. เอาบอระเพ็ด ขิงแห้ง ขมิ้นอ้อย เสมอภาค ต้มตามวิธี ให้ดื่ม
     ขนานที่ 3. เอารากมะรุม 1 ส่วน แก่นประดู่ แก่นแสมสาร แก่นมะหาด รากคนทา สิ่งละ 4 ส่วน         ต้มน้ำให้ดื่ม
     ขนานที่ 4. เอาแก่นสน ชิงช้าชาลี จันทน์ทั้ง 2 เสมอภาค บดเป็นผง ทำแท่งไว้
     ละลายน้ำดอกไม้แทรกชะมด รับประทาน

7. โรคริดสีดวงทรวงอกและสีข้าง ชื่อ อุระปัศโรค คือ โรคริดสีดวงที่เกิดในทรวงอกและสีข้างทั้ง 2 มีอาการให้เจ็บทั่วสรรพางค์กาย บางทีบวมไปทั้งตัว บางที่ให้ถ่ายดุจเป็นบิด แล้วให้ปวดมวน เป็นเสมหะ โลหิตเน่าปนกันออกมา (โรคติดเชื้อทางเดินอาหาร)
มีตำรับยาใช้รักษา 5 ขนาน ดังนี้
ขนานที่ 1. เอาหัวบุกรอ แก่นแสมทะเล พริกไทย เสมอภาค บดเป็นผง ละลายน้ำผึ้งรวง
รับประทานหนักครั้งละ 1 สลึง ( 3.75 กรัม)
ขนานที่ 2. เอากระเช้าผีมด เกลือกะตังมูตร เสมอภาค บดเป็นผง ละลายน้ำร้อน
รับประทานหนักครั้งละ 1 สลึง ( 3.75 กรัม)
       ขนานที่ 3. เอาเปลือกโมกมัน เปลือกทับทิม พริกไทย สิ่งละ 1 ส่วน ขิงแห้ง ดีปลี สิ่งละ 2 ส่วน
กระเทียม 5 ส่วน บดเป็นผง ละลายน้ำผึ้งรวง รับประทานหนักครั้งละ 1 สลึง ( 3.75 กรัม)
     ขนานที่ 4. เอาลูกยออ่อน พริกไทย กระเทียม ขิงแห้งสิ่งละ 1 ส่วน เขากระบือ 2 ส่วน
บดเป็นผง ผง ละลายน้ำร้อน รับประทานหนักครั้งละ 1 สลึง ( 3.75 กรัม)
      ขนานที่ 5. เอาพริกไทย ขิง ดีปลี สิ่งละ 1 ส่วน รากมะเกลือ 2 ส่วน หนอนตายหยากแดง 3 ส่วน
บดเป็นผง ผง ละลายน้ำร้อน รับประทานหนักครั้งละ 1 สลึง ( 3.75 กรัม)

8. โรคริดสีดวงลำไส้ใหญ่ ชื่อ อันตะวิศะโรค คือ โรคริดสีดวงที่เกิดในลำไส้ใหญ่ มีอาการให้ผอมแห้ง ผอมเหลือง ให้เหนื่อยหอบ
บางทีให้ปวดท้อง ท้องขึ้นเสมอ ให้ผะอืดผะอมมาก (โรคพยาธิลำไส้)
มีตำรับยาใช้รักษา 5 ขนาน ดังนี้
ขนานที่ 1. เอาขิงแห้ง ไพล เปลือกทองหลางใบมน ขมิ้นอ้อย ผักคราดหัวแหวน ผักเป็ดแดง ขัดมอน เปลือกกุ่มทั้ง 2 เปลือกมะรุม ผักแพวแดง สิ่งละ 2 บาท บดเป็นผง เอาน้ำกะทือ น้ำมะนาว น้ำเกลือ สิ่งละ 1 ส่วน ผสมกัน แล้วจึงเอายาซึ่งบดเป็นผง ไว้นั้นแช่ลง 3 วัน แล้วรับประทานได้
ขนานที่ 2. เอาเจตมูลเพลิง พริกไทย ขิงแห้ง กระเทียม ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ เสมอภาค
บดเป็นผง ละลายน้ำผึ้งรวง รับประทานหนักครั้งละ 1 สลึง ( 3.75 กรัม) 
ขนานที่ 3. เอารากมะนาว รากมะตูม รากมะเดื่อปล้อง สิ่งละ 1 ส่วน รากช้าพลู 2 ส่วน ขิงแห้ง ดีปลี สะค้าน เจตมูลเพลิง สิ่งละ 3 ส่วน พริกไทย 4 ส่วน ต้มน้ำดื่ม
ขนานที่ 4. เอารากคาง รากพุดซ้อน รากก้างปลาแดง รากสลอดน้ำ เปลือกแคแดง เสมอภาค ต้มให้ดื่ม
ขนานที่ 5. เอาพริกไทย ขิงแห้ง ดีปลี เจตมูลเพลิง รากช้าพลู สมอไทย สลัดได เปลือกสันพร้านางแอ
ขมิ้นอ้อย ไพลรากส้มกุ้งทั้ง 2 เสมอภาค บดเป็นผงละลายน้ำผึ้งรวงรับประทานหนักครั้งละ 1 สลึง (3.75กรัม) 

9. โรคริดสีดวงลำไส้น้อย ชื่อ อันตะคุณะโรค คือ โรคริดสีดวงที่เกิดในลำไส้น้อย มีอาการให้ท้องร่วงหนัก อยู่ดีๆก็ถ่ายไประคนด้วยลม
แรงกล้า เมื่อไปถ่ายอุจจาระให้ผายลมมีเสียงดัง บางทีมีคูถเสมหะ บางทีไม่มี ให้หิวโหย ถดถอยกำลังมาก  (โรคติดเชื้อในลำไส้)
มีตำรับยาใช้รักษา 5 ขนาน ดังนี้
ขนานที่ 1. เอาลูกจันทน์ ดอกจันทน์ เทียนดำ เทียนขาว มหาหิงคุ์ การบูร เสมอภาค
บดเป็นผง ละลายน้ำผึ้งรวงรับประทานหนักครั้งละ 1 สลึง (3.75 กรัม) 
ขนานที่ 2. เอากะทือ ไพล ขมิ้นอ้อย อบเชย เจตมูลเพลิง สมุนแว้ง ข่าต้น ขมิ้นเครือ สิ่งละ 1 สลึง (3.75กรัม) 
รากมะแว้งทั้ง 2 สิ่งละ 2 สลึง (7.5กรัม)  ตรีกฏุก สิ่งละ 2 สลึง (7.5 กรัม)  บดเป็นผง ละลายน้ำร้อนรับประทานหนักครั้งละ 1 สลึง (3.75กรัม) 
ขนานที่ 3. เอาพริกไทย มะกรูด บอระเพ็ด เกลือสมุทร เสมอภาค ดองสุราไว้ 3 วัน ดื่มได้
ขนานที่ 4. เอาฝุ่นจีน หญ้ายองไฟ กระเทียม สิ่งละ 2 สลึง (7.5กรัม) รากมะกรูด เปลือกมะงั่ว
เปลือกกลุ่มทั้ง 2 เปลือกมะรุม เปลือกทองหลางใบมน สิ่งละ 1 บาท (15กรัม)
แก่นแสมทะเล 1 ตำลึง 1 บาท (75 กรัม) บดเป็นผง ละลายน้ำมะงั่ว แทรกการบูร รับประทาน
ขนานที่ 5. รากมะแว้งทั้ง 2 ขมิ้นเครือ ข่าต้น สมุลแว้ง อบเชย เจตมูลเพลิง กะทือ ไพล ขมิ้นอ้อย เสมอภาค เอาขี้เหล็กเลือด ต้มเอาน้ำเป็นกระสายตามวิธี แล้วจึงเอาข้าวเหนียวดำ 3 ทะนาน 
(3 กิโลกรัม) มาทำเป็นข้าวหมาก ใช้เป็นกระสายดองยาไว้ 3 วัน จึงรับประทาน

10. โรคริดสีดวงหัวเหน่าและท้องน้อย ชื่อ ตาระสะกะโรค คือ โรคริดสีดวงที่เกิดในหัวเหน่าและท้องน้อย มีอาการให้ปวดท้องน้อยมาก บางทีให้ขัดปัสสาวะ บางทีให้ปัสสาวะบ่อยๆ ให้หยดย้อยไม่สะดวก ให้แสบร้อนมาก (ดูคัมภีร์มุจฉาปักขันทิกา โรคระบบทางเดินปัสสาวะและอวัยวะสืบพันธุ์  ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบ)
มีตำรับยาใช้รักษา 5 ขนาน ดังนี้
ขนานที่ 1. เอาลูกจันทน์ ดอกจันทน์ เทียนดำ เทียนขาว เทียนสัตตบุษย์ พริก ไทย ขิงแห้ง ยาดำ
สิ่งละ 1 บาท (15 กรัม) ดีปลี 2 บาท (30 กรัม) บดเป็นผง ละลายน้ำผึ้งรวง
รับประทานหนักครั้งละ 1 สลึง (3.75 กรัม) 
ขนานที่ 2. เอารากตาเสือ รากมะรุม โคกกระสุน รากเจตมูลเพลิง พริกไทย กระเทียม สิ่งละ 1 บาท (15 กรัม) บุกรอ 2 บาท  (30 กรัม) อุตพิด 3 บาท  (45 กรัม) ดีปลี 2 ตำลึง  (120 กรัม) บดเป็นผง ละลายน้ำส้มซ่า รับประทานหนักครั้งละ 1 สลึง (3.75 กรัม) 
ขนานที่ 3. เอาขี้เหล็กป่าทั้ง 5 รากโคกกระออม รากตาเสือ เปล้าน้ำเงิน เปล้าใหญ่ 
พริกไทย 8 ส่วน บดเป็นผง ละลายน้ำผึ้งรวงรับประทานหนักครั้งละ 1 สลึง (3.75 กรัม) 
ขนานที่ 4. เอารากมะเดื่อปล้อง รากหิ่งหาย รากเสนียด รากทองหลางน้ำ ใบกะเม็ง เสมอภาค
ต้มน้ำตามวิธีดื่ม
ขนานที่ 5. เอาเปลือกงิ้ว เปลือกสำโรง รากมะเดื่อปล้อง รากมะเดื่อดิน สะตือ ไพล แห้วหมู 
เสมอภาค ต้มน้ำตามวิธีดื่ม

11. โรคริดสีดวงท่อปัสสาวะ ชื่อ อัคคะนิโชตโรค คือ โรคริดสีดวงที่เกิดในช่องทางเดินปัสสาวะ มีอาการให้ปัสสาวะเป็นเลือดสดๆ
บางทีให้ปัสสาวะเหลืองดุจขมิ้น บางทีให้ปัสสาวะออกมามีหนองเจือปน ให้แสบร้อนมาก
(ดูคัมภีร์มุจฉาปักขันทิกา โรคระบบทางเดินปัสสาวะและอวัยวะสืบพันธุ์ กรวยไตอักเสบ หรือไตอักเสบ)
มีตำรับยาใช้รักษา 5 ขนาน ดังนี้
ขนานที่ 1. เอารากส้มกุ้ง รากหนามหางนกกระลิง รากหญ้าคา รากกระพังโหม เสมอภาค ต้มน้ำตามวิธีดื่ม
ขนานที่ 2. เอาบุกรอ ขิงแห้ง ดีปลี อุตพิด กลอย กระดาดแดง กระดาดขาว ลูกจันทน์ โกฐสอ 
โกฐเขมา กระวาน กานพลู เทียนดำ เทียนขาว เทียนเยาวภาณี สมุลแว้ง ชิงช้าชาลี ดอกขี้เหล็ก สิ่งละ 1 ส่วน พริกไทย 2 ส่วน บดเป็นผง ละลายน้ำร้อนรับประทานหนักครั้งละ 1 สลึง (3.75กรัม) 
ขนานที่ 3. เอากระดาดแดง กระดาดขาว ขมิ้นอ้อย รากมะหวด รากส้มป่อย บุกรอ แก่นมะหาด รากมะขาม เปลือกกระถินพิมาน ผักแพวแดง ข่า ไพล สิ่งละ 1 ส่วน ดีปลี 2 ส่วน พริกไทย 4 ส่วน
บดเป็นผงห่อผ้า ดองสุราไว้ 3 วันรับประทานได้
ขนานที่ 4. เอาพริกไทย เจตมูลเพลิง กระทืบยอด เสมอภาค บดเป็นผง ดองสุราไว้ 3 วัน
รับประทานได้
ขนานที่ 5. เอาแก่นขี้เหล็ก รากโคกกระสุน แก่นสน เถาวัลย์เปรียง ขิงแห้ง ข่า ไพล ดีปลี พริกไทย
เปลือกกันเกรา เทียนขาว โกฐน้ำเต้า โกฐพุงปลา โกฐกระดูก เบี้ยผู้เผา เสมอภาค
บดเป็นผง ละลายน้ำร้อน แทรกการบูร รับประทานหนักหนักครั้งละ 1 สลึง (3.75 กรัม) 

12. โรคริดสีดวงสันหลัง ชื่อ วาตะสูตะโรค คือ โรคริดสีดวงที่เกิดในสันหลัง มีอาการให้เจ็บเอวและสันหลัง บางทีให้ร้อนในสันหลัง
บางทีให้ไอมาก ให้ผอมแห้ง ให้ตัวเป็นเกล็ด และให้เหนื่อยหอบมาก
มีตำรับยาใช้รักษา 5 ขนาน ดังนี้
ขนานที่ 1. เอาพริกไทย ดีปลี สิ่งละ 1 ตำลึง แล้วเอาน้ำมะงั่ว น้ำส้มมะขามเปียก น้ำเปลือกสันพร้านางแอ น้ำขิง น้ำกระเทียม น้ำผึ้ง น้ำผักเสี้ยนผี สิ่งละ 1 ทะนาน (1 ลิตร) เป็นกระสายยา
ดองไว้ 3 วัน จึงรับประทานได้
ขนานที่ 2. เอารากมะหวด กระดาดทั้ง 2 รากส้มป่อย ไพล ขมิ้นอ้อย ข่าแก่ แก่นมะหาด 
แก่นมะขาม เปลือกกระถินพิมาน เจตมูลเพลิง เสมอภาค บดเป็นผงห่อผ้าดองสุราไว้ 3 วัน 
จึงรับประทานได้
ขนานที่ 3. เอารากส้มกุ้งทั้ง 2 บอระเพ็ด เปลือกปีบ บุก กลอย กระดาดแดง กระดาดขาว อุตพิด
สิ่งละ 2 บาท (30 กรัม) บดเป็นผง เอาน้ำมะกรูด น้ำมะนาว น้ำมะงั่ว สิ่งละ 1 ทะนาน (1 ลิตร)
เป็นกระสายยาดองไว้ 3 วัน จึงรับประทานได้
ขนานที่ 4. เอาลูกมะเกลือ ลูกมะเขือขื่น ลูกมะแว้งทั้ง 2 พริกไทย ขิงแห้ง ดีปลี หอมแดง กระเทียม ข่าแก่ เสมอภาค บดเป็นผง แล้วเอาน้ำมันยาง 1 ส่วน น้ำผึ้ง 2 ส่วน เคล้าเข้าด้วยกัน บดให้รับประทานครั้งละ 1 สลึง (3.75 กรัม)
ขนานที่ 5. เอาเทียนดำ น้ำประสานทอง กระวาน กานพลู สิ่งละ 1 ส่วน โกฐพุงปลา 2 ส่วน 
สมอเทศ 3 ส่วน มะขามป้อม 4 ส่วน โกฐน้ำเต้า 5 ส่วน เลือดแรด 6 ส่วน บดเป็นผงละลายน้ำมะกรูดหรือน้ำมะนาวก็ได้รับประทาน

13. โรคริดสีดวงวัณโรคทรวงอก ชื่อ อุระวัณณะโรค คือ โรคริดสีดวงที่เกิดในทรวงอก มีอาการให้เจ็บ ให้ยอกในอกมาก และให้ไอแห้ง ไม่มีเสมหะออกมา บางทีให้เป็นไข้ดุจไข้เจรียง แล้วให้ร้อนให้หนาว ให้ครั่นตัวมาก (วัณโรค)
มีตำรับยาใช้รักษา 6 ขนาน ดังนี้
ขนานที่ 1. เอามะตูมทั้ง 5 มะคำไก่ทั้ง 5 เถาคันทั้ง 5 เกลือสมุทร เสมอภาค ต้มน้ำดื่ม
ขนานที่ 2. เอาจันทน์แดง จันทน์ขาว รากมะขามป้อม ข้าวเย็นทั้ง 2  น้ำประสานทอง รากตะบูน เสมอภาค ต้มน้ำดื่ม
ขนานที่ 3. เอาสมอไทย เทียนขาว สะค้าน รากช้าพลู เจตมูลเพลิง น้ำประสานทอง ลูกรักดำ 
บุกรอ เสมอภาค บดเป็นผง ละลายน้ำอ้อยแดงรับประทานหนักครั้งละ 1 สลึง (3.75 กรัม)
ขนานที่ 4. เอาบุกรอ แก่นแสมทะเล เจตมูลเพลิง รากส้มกุ้ง ขิงแห้ง ลูกจันทน์ พริกไทย 
เสมอภาค บดเป็นผง ละลายน้ำร้อนรับประทาน
ขนานที่ 5. เอามดยอบ เทียนดำ เทียนขาว เทียนแดง เทียนข้าวเปลือก เทียนตาตั๊กแตน 
เสมอภาค ต้มน้ำดื่ม
ขนานที่ 6. เอาโกฐสอ โกฐเขมา โกฐกระดูก โกฐเชียง เทียนดำ สิ่งละ 1 ส่วน ตรีผลา ตรีกฏุก 
สิ่งละ 4 ส่วน  บดเป็นผง ละลายน้ำผึ้งรวงรับประทานหนักครั้งละ 1 สลึง (3.75 กรัม)

14. โรคริดสีดวงในทวารหนัก ชื่อ ศักการะโรค คือ โรคริดสีดวงที่เกิดในทวารหนัก มีอาการให้แสบร้อนในทวารหนัก บางทีมีน้ำเหลืองให้ไหลอยู่เรื่อยๆ
มีตำรับยาใช้รักษา 6 ขนาน ดังนี้
ขนานที่ 1. เอารากโคกกระสุน รากโยทะกา รากผักคราดหัวแหวน รากผักเสี้ยนผี เสมอภาค 
ต้มน้ำดื่ม
ขนานที่ 2. เอารากทรงบาดาล รากส้มกุ้ง รากคนทีสอ หัวอุตพิต ใบอัคคีทวาร  แก่นขี้เหล็ก
เปลือกขลู่ เสมอภาค เอาน้ำมะนาวเป็นกระสายดองไว้ 3 วันจึงรับประทานได้
ขนานที่ 3. เอาผักแพวแดง เปลือกกุ่มทั้ง 2 บุกรอ อุตพิด แห้วหมู ผักบุ้งขัน รากหนอนตายหยาก เสมอภาค  บดเป็นผง ละลายน้ำสุรารับประทานหนักครั้งละ 1 สลึง (3.75 กรัม)
ขนานที่ 4. เอาเปลือกข่อย ปูนขาว เสมอภาค บดเป็นผง เคล้ากับน้ำมูตรและรมด้วยถ่านไม้สะแก
ขนานที่ 5. เอารากและต้นอัคคีทวาร เบญกานี ใบรักซ้อน รากลำโพงกาสลัก เสมอภาค บดเป็นผง ทำแท่งไว้ ละลายน้ำสุราทา
ขนานที่ 6. เอาโกฐพุงปลา โกฐจุฬาลัมพา เทียนดำ ขมิ้นอ้อย สิ่งละ 1 ส่วน แฝกหอม มะตูมอ่อน แห้วหมู ลังกาสา สิ่งละ 2 ส่วน มหาหิงคุ์ ขิงแห้ง พริกไทย สิ่งละ 3 ส่วน การบูร ยาดำ  
สิ่งละ 4 ส่วน บดเป็นผง ละลายน้ำร้อนรับประทานหนักครั้งละ 1 สลึง (3.75 กรัม)

15. โรคริดสีดวงขอบทวารหนัก ชื่อ สุวิชิกาโรค  คือ โรคริดสีดวงที่เกิดตามขอบทวารหนัก มีสัณฐานดังเมล็ดข้าวโพด มีอาการให้ปวดแสบ
ให้คันมาก บางทีให้มีหนอง และโลหิตออกทางทวารหนัก ให้ปวดมวน ให้ตึงทวารมาก
 มีตำรับยาใช้รักษา 3 ขนาน ดังนี้
ขนานที่ 1. เอาบอระเพ็ด ผักเป็ดแดง กระเทียม พริกไทย บดเป็นผง ละลายน้ำร้อนรับประทาน
ขนานที่ 2. เอารากมะตูม ก้างปลาแดง หัวอุตพิด  เถาวัลย์เปรียง บอระเพ็ด ขมิ้นอ้อย หญ้าใต้ใบ
กระพังโหม ขอบชะนางทั้ง 2 สิ่งละ 1 ส่วน รากตองแตก 2 ส่วน ต้มน้ำตามวิธีดื่ม
 
ขนานที่ 3. เอามะเดื่อปล้อง สมอเทศ สมอไทย สมอพิเภก มะขามป้อม พริกไทย ขิงแห้ง ดีปลี 
เจตมูลเพลิง สะค้าน ช้าพลู สิ่งละ 1 ส่วน มะตูมอ่อน 2 ส่วน ต้มน้ำตามวิธีดื่ม

16. โรคริดสีดวงเดือยไก่ริมทวารหนัก ชื่อ สกาถานะโรค คือ โรคริดสีดวงเกิดที่ริมทวารหนักข้างในมีสัณฐานดังเดือยไก่ มีอาการให้เจ็บดุจไข้เหลือง
มีตำรับยาใช้รักษา 4 ขนาน ดังนี้
ขนานที่ 1. เอาเปลือกยอ รากมะเดื่อปล้อง เทียนดำ เทียนขาว เทียนเยาวภาณี ลูกผักชีล้อม 
ลูกผักชีลา เสมอภาค บดเป็นผง ละลายน้ำร้อนรับประทาน
ขนานที่ 2. เอาเปล้าทั้ง 2  ใบอัคคีทวาร รากจิงจ้อ ลูกมะตูมอ่อน รากมะแว้งทั้ง 2 แก่นขี้เหล็ก
เมล็ดมะเขือขื่น อุตพิด บุกรอ กระดาดทั้ง 2 แก่นปรู แก่นมะหาด แก่นแสมสาร ผักแพวแดง 
พริกไทย ขิงแห้ง แห้วหมู ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ กระวาน กานพลู ดีปลี เทียนทั้ง 5 เสมอภาค
บดเป็นผง เอาสุรา 3 ทะนาน (3 ลิตร) เป็นกระสายยา ดองไว้ 3 วัน จึงรับประทานได้
ขนานที่ 3. เอาผักแพวแดง ดองดึง เสมอภาค บดเป็นผง ทำแท่งไว้ ละลายสุราป้ายทาริดสีดวง
ขนานที่ 4. เอาผักแพวแดง รากส้มกุ้ง เปลือกลูกมะเขือขื่น เปลือกลูกมะอึก รากมะกล่ำทั้ง 2 
รากมะแว้งทั้ง 2 พริกไทย ขิงแห้ง ดีปลี สิ่งละ 1 ส่วน ฝักส้มป่อยปิ้ง 2 ส่วน บดเป็นผง เอาสุราเป็นกระสายยาดองไว้ 7 คืน จึงรับประทานได้

17. โรคริดสีดวงบานทวารหนัก ชื่อ บานทะโรค คือ โรคริดสีดวงที่เกิดตามขอบทวารหนัก มีอาการให้เป็นหนองและมีเลือดไหลเหม็นเน่ามาก ให้ปวดแสบปวดร้อนมาก อุจจาระจะผูกไม่ได้ถ้าเกิดผูกเข้า จะทำให้เจ็บปวดไปทั้งทวาร
มีตำรับยาใช้รักษา 2 ขนาน ดังนี้
ขนานที่ 1. เอารากถั่วพู รากมะแว้งเครือ รากมะเขือขื่น หอมแดง หญ้าแพรก ใบกะเม็ง ใบตำลึง
ลูกลำโพงกาสลัก เอาน้ำสิ่งละ 1 ถ้วย น้ำมันงา 1 ถ้วย หุงด้วยไฟแกลบ ให้เหลือแต่น้ำมัน
แล้วจึงเอาดีงู 1 เฟื้อง ( 1.875 กรัม) ใส่ลงในน้ำมันจึงทา
ขนานที่ 2. เอาพริกไทย ขิงแห้ง ลูกกระวาน ลูกจันทน์ ดีปลี รากช้าพลู สะค้าน หนอนตายหยาก กำแพงเจ็ดชั้น เสมอภาค บดเป็นผง  ละลายน้ำผึ้งรับประทานหนักครั้งละ 1 สลึง (3.75 กรัม)

18. โรคริดสีดวงลำส้วงอุจจาระ ชื่อ กาละศุกระโรค คือ โรคริดสีดวงที่เกิดในลำส้วงอุจจาระ 
มีอาการโลหิตสดๆไหลออกมา บางทีเป็นโลหิตระคนกันกับเสมหะไหลออกมา ให้แสบ ให้ร้อน 
ให้คัน ให้เมื่อยทุกข้อ ทุกกระดูก และทั่วสรรพางค์กาย (มะเร็งลำไส้ใหญ่)
มีตำรับยาใช้รักษา 5 ขนาน ดังนี้
ขนานที่ 1. เอาพริกไทย ขิงแห้ง ลูกช้าพลู สมอไทย มะขามป้อมสะค้าน ผักแพวแดง ลูกผักชีล้อม ลูกผักชีลา เทียนดำ เทียนขาว เทียนเยาวภาณี สารส้ม อบเชย ลูกกระวาน กานพลู สิ่งละ 1 ส่วน ดีปลี 2 ส่วน บดเป็นผง ละลายน้ำสุรารับประทานหนักครั้งละ 1 สลึง (3.75 กรัม)
ขนานที่ 2. เอาข้าวเย็นทั้ง 2 สีเสียดเทศ เนระพูสี รากหญ้าปากควาย เสมอภาค ต้มน้ำตามวิธีดื่ม
ขนานที่ 3. เอาเทียนดำ เทียนแดง เทียนขาว เทียนข้าวเปลือก เทียนตาตั๊กแตน ลูกจันทน์เทศ 
ลูกกระวาน ดีปลี พริกไทย สิ่งละ 1 ส่วน ขิงแห้ง 2 ส่วน บดเป็นผง เอาสุราดองยาไว้ 3 วัน 
จึงรับประทานได้
ขนานที่ 4. เอาเอาบุกรอ บอระเพ็ด กระดาดแดง พริกไทย ขิงแห้ง เสมอภาค
บดเป็นผง ละลายน้ำมูตรโครับประทานหนักครั้งละ 1 สลึง (3.75 กรัม)
ขนานที่ 5. เอาเปลือกคำแสด เปลือกสนุ่น ใบอัคคีทวาร รากจิ้งจ้อ เกลือสมุทร เสมอภาค
บดเป็นผง แล้วเอาขึ้นกลั่นเอาน้ำดื่ม
ปรับปรุงโดย  อ. หมอสุชาติ  ภูวรัตน์, นธ. เอก, ปธ. 1-2;  B.S., B.A., B.S., พท.บ..., พท.., พท.ผ., พท.น.
--------------------------------------------------------------------------------
 ผู้ใดใช้ยารักษาริดสีดวง ต้องรักษาศีล 5 สวดมนต์ ทำสมาธิ ขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวรและอุทิศส่วนกุศลให้เจ้าของตำรับยาด้วย จะได้หายไวๆ 

        ผู้ใดรักษาบรรเทาหรือหาย ให้ถวายกล้วยน้ำว้า 3 หวี ตักบาตร 5 เช้า อุทิศกุศลให้เจ้าของตำรับ
        ยาจะได้ตัดรากถอนโคน
       ---------------------------------------------------------------------

ตัวอย่างสมุนไพรแก้ริดสีดวง
รากแคฝอย แก้ริดสีดวงปอด
เนื้อไม้ ปรู แก้ริดสีดวงลำไส้ และริดสีดวงทวารหนัก
มะคำไก่ทั้ง 5 แก้ริดสีดวง
ใบรักซ้อน แก้ริดสีดวงทวาร
ดอกแห้ง ลำโพงกาสลัก แก้ริดสีดวงจมูก
ดอกสะเดา แก้ริดสีดวงในคอ
รากหัศคุณเทศ แก้ริดสีดวงจมูก ริดสีดวงผอมแห้ง
ใบอัคคีทวาร แก้ริดสีดวงทวาร รากและต้นฝนทาหัวริดสีดวง
รากหนอนตายหยาก แก้ริดสีดวงทวาร รากต้มกับยาฉุนรมหัวริดสีดวง
ราก พาหมี แก้ริดสีดวงลำไส้ ริดสีดวงจมูก
เมล็ดมะกล่ำตาหนู หรือมะกล่ำเครือ แก้ริดสีดวงตา
หัวอุตพิด แก้ริดสีดวงทวารหนัก
เถาเพชรสังฆาต แก้ริดสีดวงทวารหนัก
ทั้งต้น ผักคราดหัวแหวน แก้ริดสีดวง
เปลือกขลู่ แก้ริดสีดวงจมูก และริดสีดวงทวารหนัก
เนื้อไม้ เปล้าใหญ่ แก้ริดสีดวงลำไส้ และริดสีดวงทวารหนัก
ต้น เข็มม่วง ต้มน้ำดื่ม แก้ริดสีดวงทวาร
 ------------------------------------------------------------------------
        ผู้ใดใช้ยารักษาริดสีดวง ต้องรักษาศีล 5 สวดมนต์ ทำสมาธิ ขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวร และอุทิศส่วนกุศลให้เจ้าของตำรับยาด้วย จะได้หายไวๆ 
        ผู้ใดรักษาบรรเทาหรือหาย ให้ถวายกล้วยน้ำว้า 3 หวี ตักบาตร 5 เช้า อุทิศกุศลให้เจ้าของตำรับยาจะได้ตัดรากถอนโคน